ประวัติ กฎกติกา กีฬาเทควันโด
ประวัติ
แต่เดิมสมาคมเทควันโดแห่งสาธารณรัฐเกาหลีได้ดำเนินการสนับสนุนให้เทควันโดแพร่หลายไปทั่วโลก มีการจัดตั้งสมาคมเทควันโดขึ้นในประเทศต่างๆ มีการพัฒนารูปแบบการฝึกออกไปมากมายทำให้ไม่เป็นมาตรฐานเดียวกันจนกระทั่ง
พ.ศ. 2515 ก่อตั้งสหพันธ์เทควันโด ( The World Taekwondo Federation : WTF) ที่ทำการใหญ่อยู่ที่สำนักคุกคิวอน กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี ประธานสหพันธ์คนแรก คือ ดร. ยุน ยอง คิม
พ.ศ. 2516 การแข่งขันกีฬาเทควันโดโลกครั้งแรก และจัดเป็นประจำทุกๆ 2 ปี
พ.ศ. 2529 บรรจุกีฬาเทควันโดในเอเชี่ยนเกมส์
พ.ศ. 2531 บรรจุกีฬาเทควันโดในกีฬาโอลิมปิก
พ.ศ. 2510 เปิดสอนเทควันโดในประเทศไทยที่วายเอ็มซีเอ ราชกรีฑาสโมสรกรุงเทพฯ ในฐานทัพทหารสหรัฐอเมริกาที่ตาคลี นครราชสีมา อุดรธานี อุบลราชธานีและสัตหีบ
พ.ศ. 2516 เปิดสอนเทควันโดที่ราชกรีฑาสโมสร
พ.ศ. 2519 เปิดสำนักขึ้นที่โรงเรียนศิลปป้องกันตัวอาภัสสา ถนนเพลินจิต
พ.ศ. 2521 ก่อตั้งสมาคมส่งเสริมศิลปป้องกันตัวเทควันโด ณ โรงเรียนอาภัสสา โดยมีนายสรยุทธ ปัทมินทร์วิโรจน์ เป็นนายกสมาคมฯคนแรก ต่อมาสมาคมฯ ได้เปลี่ยนชื่อเป็น สมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย
กฎกติกา
วิธีการการให้คะแนน
เพราะเทควันโดเป็นกีฬาที่มีความรุนแรงสูง จึงมีการแบ่งการแข่งขันเป็นช่วงละ 3 นาที สามช่วง และมีการพักหนึ่งนาทีในแต่ละช่วง คะแนนอาจมีการเพิ่มหรือลด และผลคะแนนที่ได้ในสามช่วงนั้นจะสะสมกันจนถึงช่วงสุดท้ายของการแข่งขันเพื่อหาผู้ชนะ ในกรณีที่ต้องมีการต่อเวลาผู้ชนะคือผู้ที่ได้รับคะแนนในเชิงบวกมากที่สุด ถ้ายังหาผู้ชนะไม่ได้อีกการตัดสินจะอยู่ในดุลยพินิจของกรรมการผู้ซึ่งจะเลือกผู้ที่แสดงการโจมตีที่ดีที่สุดในระหว่างการแข่งขัน
การคำนวณคะแนน
คะแนนที่ได้รับ (+2 คะแนน) > การใช้เท้า - ถีบคู่ต่อสู้อย่างรุนแรงเข้าที่หน้า
คะแนนที่ได้รับ (+2 คะแนน) > การใช้หมัด - เมื่อต่อยเข้าเป้าที่จะแจ้งในบริเวณสีน้ำเงินหรือสีแดงของชุดป้องกันที่ร่างกาย ความจะแจ้งคือคู่ต่อสู้ออกอาการจากแรงหมัดหรือมีเสียงดังสนั่น
การใช้เท้า - เมื่อมีการเตะที่จะแจ้งไปยังบริเวณสีน้ำเงินหรือสีแดงบนหัวหรือร่างกายของชุดป้องกัน
การเตือน (-0.5 คะแนน)
1) การทำผิดกติกา
- การรวบคู่ต่อสู้
- การเข้าปล้ำคู่ต่อสู้
- การผลักคู่ต่อสู้
- การใช้ร่างกายสัมผัสคู่ต่อสู้
2) การแสดงอาการขลาดกลัว
- การออกนอกเส้นเพื่อหลบการโจมตี
- หันหลังให้คู่ต่อสู้เมื่อหลบการโจมตี
- การล้มตัวลงเพื่อหลบหลีก
- แกล้งทำเป็นเจ็บ
3) การโจมตีผิดกติกา
- การสัมผัสเป้าหมายบริเวณเข่าหรือหน้าผาก
- การเตะเข้าที่หว่างขาโดยเจตนา
- กายย่ำบริเวณแข้ง คาง เข่า และอื่นๆ ของคู่ต่อสู้ที่ล้มลง
- การใช้มือตบหน้า
4) มารยาททราม
- เมื่อผู้แข่งขันหรือผู้ฝีกสอนโต้เถียงในเรื่องคะแนน
- มารยาททรามของผู้ฝึกสอนหรือผู้แข่งขัน
- เมื่อผู้ฝึกสอนลุกจากที่นั่ง
การตัดคะแนน (- 1 คะแนน)
1) การทำผิดกติกา
- การใช้มือจับตัวคู่ต่อสู้กดให้ล้มลง
- การจับขาคู่ต่อสู้ขณะเตะเพื่อให้ล้มลง
2) การแสดงความขลาด
- ออกนอกพื้นที่การแข่งขันเพื่อหลบการโจมตี
- ตั้งใจจะให้การแข่งขันดำเนินต่อไปด้วยยาก
3) การโจมตีที่ผิดกติกา
- การโจมตีคู่ต่อสู้ที่ล้มลงแล้ว
- การโจมตีคู่แข่งขันหลังจากกรรมการสั่งแยก
- การโจมตีที่หลังศีรษะหรือที่หลังโดยจงใจ
4) มารยาททราม
- การกระทำที่ทรามสุดๆของผู้ฝึกสอนหรือผู้แข่งขัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น